เทคโนโลยี DM-i (Dual Mode intelligent) ของ BYD SEALION6 คืออะไร?

Post Views: 2,227

ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยกำลังคึกคักอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด BYD เตรียมส่ง BYD Sealion6 DM-i รถ SUV ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid ที่ล้ำสมัยและเหนือกว่ารถปลั๊กอินไฮบริดที่เราคุ้นเคยกัน BYD มุ่งมั่นที่จะทำให้รถของตนมีความโดดเด่นกว่า, ฉลาดกว่า และประหยัดกว่าใครในท้องตลาด

บทความนี้จะพาไปเจาะลึกถึง BYD Sealion6 DM-i ว่ามีดีอย่างไร? ทำไมจึงเป็นรถ SUV ที่น่าจับตามอง? และเทคโนโลยี DM-i จะเข้ามาสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับวงการรถยนต์ไทยได้หรือไม่? ร่วมหาคำตอบได้ในบทความนี้

หัวข้อ

เทคโนโลยี DM-i (Dual Mode intelligent) คืออะไร?

เทคโนโลยี DM-i หรือ Dual Mode intelligent ของ BYD เป็นระบบ PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) ที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดแบบ HEV (Hybrid Electric Vehicle) การทำงานของ PHEV จะคล้ายกับ HEV แต่มีความสามารถพิเศษเพิ่มเติมในการชาร์จไฟฟ้าจากภายนอก

DM-i ของ BYD แตกต่างอะไรกับ PHEV ทั่วไปอย่างไร?

BYD เป็นผู้ผลิตรถยนต์ PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) รายแรกของโลกที่ได้เริ่มการผลิตในระดับอุตสาหกรรม โดยเริ่มต้นจากการผลิต BYD F DM เมื่อปี ค.ศ. 2008 และล่าสุดคือ BYD Sealion6 DM-i ซึ่งเป็นเวอร์ชั่น DM 4.0 รุ่นใหม่ล่าสุด เทคโนโลยี DM-i ของรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีไฮบริดที่เน้นการใช้พลังงานไฟฟ้า (Electricity based hybrid technology) โดยมีสถาปัตยกรรมที่รวมมอเตอร์ขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูงและแบตเตอรี่พลังงานสูงซึ่งทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานหลักในการขับเคลื่อนและเครื่องยนต์ที่สร้างพลังงานเสริมเพื่อช่วยในการขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพ

เทคโนโลยี DM-i (Dual Mode intelligent) ของ BYD SEALION6 คืออะไร?

VCU หัวใจสำคัญของ DM-i

VCU (Vehicle Control Unit) คือหน่วยควบคุมหลักของระบบรถยนต์ที่ทำหน้าที่ในการจัดการและประสานงานการทำงานของส่วนประกอบต่างๆ ภายในรถยนต์ โดยเฉพาะในรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีไฟฟ้าหรือไฮบริด VCU จะมีตัวประมวลผลที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานร่วมกันระหว่างสามส่วนหลัก ได้แก่ มอเตอร์ไฟฟ้า, เครื่องยนต์, และแบตเตอรี่ เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างลงตัวและมีประสิทธิภาพสูงสุด

คุณสมบัติสำคัญของ VCU คือการจัดการการกระจายพลังงานและการควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ เพื่อให้การทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในระบบ DM (Dual Mode) ที่มีการเพิ่ม “i” (intelligent) เพื่อเน้นการควบคุมที่ชาญฉลาด ระบบพลังงานและชุดควบคุมทั้งหมดได้รับการวิจัยและพัฒนาโดย BYD 100% เพื่อให้มั่นใจในความสามารถและประสิทธิภาพของระบบการควบคุมที่ล้ำสมัยและตอบโจทย์การขับขี่อย่างเต็มที่

การทำงานของมอเตอร์และเครื่องยนต์ของ BYD Sealion6 DM-i

ส่วนของมอเตอร์

BYD Sealion6 DM-i ใช้ชุดมอเตอร์ควบคุมคู่และมอเตอร์คู่ที่มีระบบขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูง โดยมีกำลังสูงสุดที่ 145 kW และแรงบิดสูงถึง 300 Nm

รายละเอียดของมอเตอร์

การจัดการและขนาดของมอเตอร์
- ขนาดและน้ำหนักของมอเตอร์ลดลง 30% เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แต่ยังคงมีประสิทธิภาพในการทำงานเท่าเดิม
ประสิทธิภาพการทำงาน
- ใช้เทคโนโลยีการปรับกระแสไฟฟ้าแบบอัจฉริยะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของมอเตอร์
- มอเตอร์มีความเร็วสูงพิเศษที่ 16,000 rpm
เทคโนโลยีการพันมอเตอร์
- สามารถกระจายความร้อนได้ดี โดยมีประสิทธิภาพสูงสุดถึง 97.5%
การระบายความร้อน
- ใช้เทคโนโลยีการระบายความร้อนด้วยน้ำมัน ซึ่งปรับปรุงการระบายความร้อนโดยตรงดีขึ้น 15%
แรงบิด
- แรงบิดสูงถึง 300 Nm

มอเตอร์ของ BYD Sealion6 DM-i จึงมีประสิทธิภาพที่โดดเด่นทั้งในด้านการควบคุมและการระบายความร้อน ทำให้รถยนต์มีสมรรถนะที่สูงและตอบสนองได้ดีในทุกสถานการณ์การขับขี่

ส่วนของเครื่องยนต์

BYD Sealion6 DM-i ใช้เครื่องยนต์ Xiaoyun เบนซิน 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ซึ่งได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) โดยมีกำลังสูงสุด 72 kW และ แรงบิด 122 Nm

รายละเอียดของเครื่องยนต์

เป็นเครื่องยนต์ที่มีอัตราส่วนกำลังอัด 15.5:1 กำลังอัดสูงให้พลังงานมาก
เครื่องยนต์ใช้เทคโนโลยี Atkinson Cycle ซึ่งมีประสิทธิภาพเชิงความร้อนถึง 43.04% ช่วยลดการสูญเสียพลังงาน
ระบบ EGR (Exhaust Gas Recirculation) คือ ระบบนี้นำไอเสียที่ผ่านการเผาไหม้แล้วกลับมาใช้ใหม่เพื่อลดการปล่อยมลพิษ
ระบบระบายความร้อนใช้ระบบระบายความร้อนแบบแยกส่วนระหว่างเสื้อสูบและฝาสูบ ด้วยปั๊มน้ำไฟฟ้า ทำให้สามารถระบายความร้อนได้อย่างเสถียรและรวดเร็ว
การออกแบบของลูกสูบและกระบอกสูบออกแบบให้มีแรงทานต่ำพิเศษ เพื่อลดการสึกหรอ
ใช้เกียร์ไฟฟ้าอัตราทดเดียว ซึ่งส่งกำลังได้เต็มประสิทธิภาพ เงียบ ไร้รอยต่อ และเสมือนการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า

เมื่อรวมพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ Xiaoyun จะได้พลังงานรวมสูงสุดที่ 160 kW และแรงบิดสูงถึง 300 Nm ซึ่งเป็นการผสมผสานที่มีประสิทธิภาพสูงในการขับขี่

ระบบการขับเคลื่อน

เทคโนโลยี DM-i ของ BYD สามารถปรับระบบขับเคลื่อนได้สองรูปแบบหลัก คือ EV Mode (Electric Vehicle) และ HEV Mode (Hybrid Electric Vehicle)

1. EV Mode (Electric Vehicle) : ทำงานเหมือนรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว

โหมดไฟฟ้า หรือ EV เป็นการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจาก BYD Blade Battery 100% ยกตัวอย่างเช่นโหมดนี้จะทำงานในช่วงของการสตาร์ทรถที่บ้าน การออกตัวขับรถออกจาก บ้าน และ การขับขี่ไปทำงาน

2. HEV Mode (Hybrid Electric Vehicle) : ทำงานเหมือนกับรถ Full Hybrid โดยสามารถใช้พลังงานทั้งจากแบตเตอรี่และน้ำมันเชื้อเพลิง และสามารถแยกย่อยได้อีก 2 แบบ คือ Series และ Parallel

โหมดอนุกรม หรือ Series **ขึ้นอยู่กับความต้องการของพลังงาน ในโหมดนี้ยังคงขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า แต่จะเป็นการใช้พลังงานจากเครื่องยนต์แทนที่ BYD Blade Battery และจะส่งกระแสไฟบางส่วนกลับไปเก็บไว้ที่ BYD Blade Battery เช่นกัน ยกตัวอย่างการทำงานเช่น ขับรถบนทางด่วน หรือ ทางตรงระยะยาว

โหมดขนาน หรือ Parallel เป็นโหมดการขับเคลื่อนที่ใช้เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าส่งกำลังไปยังล้อพร้อมกัน เพื่อให้ได้พละกำลังในการเร่งแซง และขึ้นทางลาดชันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ข้อดีของระบบ DM-i Super Hybrid

การเร่งความเร็ว : BYD Sealion6 DM-i มีสมรรถนะที่โดดเด่นด้วยการทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.3 วินาที การประสานการทำงานของมอเตอร์และเครื่องยนต์ทำให้รถมีกำลังรวมสูงถึง 160 kW และแรงบิด 300 Nm มั่นใจได้ทุกครั้งเมื่อเร่งแซง
ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ : ใช้เครื่องยนต์ Xiaoyun ที่มีประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูงถึง 43.04% ซึ่งช่วยลดการสูญเสียพลังงานและเพิ่มความประหยัดพลังงาน การทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าทำให้ลดค่าเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า : รถใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลักในการขับเคลื่อน ไม่มีอัตราทดเกียร์ ทำให้มีการสั่นสะเทือนน้อยและรถมีความเงียบเหมือนรถยนต์ไฟฟ้า มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบสงบ
การสลับโหมดการขับเคลื่อน : การสลับระหว่างโหมด EV (Electric Vehicle) และ HEV (Hybrid Electric Vehicle) เป็นไปอย่างนุ่มนวลและไร้รอยต่อ ช่วยให้การขับขี่มีความยืดหยุ่นตามสภาพการขับขี่
การออกแบบเพื่อความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม : รถถูกออกแบบให้ใช้ไฟฟ้าเป็นหลัก และเครื่องยนต์มีระบบ EGR (Exhaust Gas Recirculation) ที่นำไอเสียกลับมาเผาไหม้ใหม่ เพื่อลดการปล่อยไอเสียและผ่านมาตรฐานสากล
เทคโนโลยีแบตเตอรี่ BYD Blade : ใช้แบตเตอรี่ BYD Blade ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ DM-i Super Hybrid ซึ่งรองรับการชาร์จและใช้งานได้อย่างรวดเร็ว และทนทานต่อการทดสอบเช่น การเจาะแบตเตอรี่ โดยไม่เกิดการระเบิดหรือการติดไฟ
ระยะทางขับขี่ : รองรับการขับขี่ได้ไกลกว่า 900 กม. ซึ่งเพิ่มความสะดวกในการเดินทางระยะไกล

สรุป

BYD SEALION6 DM-i ใช้เทคโนโลยี DM-i Super Hybrid คือการผสานพลังระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว ผลลัพธ์ที่ได้คือการประหยัดน้ำมันอย่างมาก โดยมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาดเพื่อใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก นอกจากนี้ รถรุ่นนี้ยังมีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม สามารถทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 8.3 วินาที ซึ่งถือว่ารวดเร็วที่สุดในรถยนต์ขนาดใหญ่ (D-segment) อีกทั้งยังมีความนุ่มนวลและเงียบสงบเหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้า อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยระบบ EGR ที่นำไอเสียหมุนเวียนกลับมาจุดระเบิดใหม่ เพื่อลดการปล่อยไอเสียและผ่านมาตรฐานไอเสียสากล

ส่วนราคาของ BYD SEALION6 DM-i รุ่น Dynamic ทาง Rever ได้ประกาศราคาคาดการณ์จำหน่ายจะอยู่ที่ 939,900 บาท ซึ่งเป็นราคาที่คุ้มค่ามากสำหรับคุณสมบัติและเทคโนโลยีให้มาใน BYD SEALION6 DM-i

สามารถรับชมวิธีการทำงานของ DM-i แบบเข้าใจง่ายได้ที่ : DM-i Super Hybrid