เทคโนโลยีขับเคลื่อนของรถยนต์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มรถออฟโรดที่ต้องการทั้งพลังและความประหยัดพลังงาน BYD ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ระดับโลก ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม DMO (Dual Mode Off-Road) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มไฮบริดที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการขับขี่แบบออฟโรดโดยเฉพาะ
แพลตฟอร์ม DMO ช่วยให้รถยนต์สามารถใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในโหมดไฟฟ้า (EV) และเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) เพื่อเพิ่มสมรรถนะและความยืดหยุ่นสำหรับการขับขี่ในทุกสภาพถนน มาดูกันว่า DMO คืออะไร? และมีคุณสมบัติอะไรที่ทำให้เป็นนวัตกรรมที่โดดเด่นของ BYD
หัวข้อ
DMO (Dual Mode Off-Road) คืออะไร?
DMO หรือ Dual Mode Off-Road เป็นแพลตฟอร์มไฮบริดที่พัฒนาโดย BYD โดยออกแบบมาเพื่อเพิ่มสมรรถนะการขับขี่สำหรับรถออฟโรดโดยเฉพาะ
แพลตฟอร์มนี้ถูกนำมาใช้กับรถยนต์รุ่นที่ต้องการพลังงานสูง เช่น BYD Formula Bao 5, Leopard 5 และ BYD Shark 6 ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานบนเส้นทางที่ท้าทาย เช่น ทางลาดชัน พื้นโคลน พื้นทราย และพื้นน้ำแข็ง
จุดเด่นและเทคโนโลยีของแพลตฟอร์ม DMO
1. เทคโนโลยี Cell to Chassis (CTC) และการปกป้องแบตเตอรี่
DMO ใช้เทคโนโลยี Cell to Chassis (CTC) ที่ช่วยให้แบตเตอรี่ถูกรวมเข้ากับโครงสร้างตัวรถ ซึ่งให้ข้อดีหลายประการ ได้แก่
- จุดศูนย์ถ่วงต่ำลง เพิ่มความมั่นคงและเสถียรภาพในการขับขี่
- ป้องกันแบตเตอรี่จากแรงกระแทกและความเสียหายระหว่างการขับขี่ออฟโรด
2. โหมด Terrain Mode รองรับทุกสภาพถนน
DMO มี Terrain Mode ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพถนน เช่น
- Sand Mode – เหมาะสำหรับขับขี่บนพื้นทรายหรือทะเลทราย
- Mud Mode – รองรับการขับขี่บนเส้นทางโคลนและลื่น
- Snow Mode – สำหรับการขับขี่บนหิมะและพื้นน้ำแข็ง
3. โครงสร้างตัวรถแข็งแกร่งและรองรับแรงบิดสูง
- ใช้เหล็กความแข็งแกร่งสูงถึง 96% ช่วยให้โครงสร้างแข็งแรงและปลอดภัย
- โครงสร้างคานบิดได้รับการปรับปรุงให้รองรับแรงบิดในสภาพเส้นทางขรุขระ
4. ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ
DMO มีระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงมากกว่า 20 ระบบ ได้แก่
- ระบบเซนเซอร์และเรดาร์รอบคัน
- ระบบช่วยลงทางลาดชัน
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว
5. ระบบขับเคลื่อน Dual Mode: EV + ICE
DMO รองรับทั้งโหมด EV (ไฟฟ้า) และ ICE (เครื่องยนต์สันดาปภายใน) ซึ่งให้ข้อดีดังนี้
- EV Mode – เงียบ ประหยัดพลังงาน เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองและทางเรียบ
- ICE Mode – ใช้พลังงานจากเครื่องยนต์เบนซินเพื่อเพิ่มแรงบิดและกำลังสำหรับการขับขี่ออฟโรด
6. ระบบ “สามล็อค” อัจฉริยะ เพิ่มสมรรถนะออฟโรด
แพลตฟอร์ม DMO รองรับระบบล็อคเฟืองท้าย สามจุด ได้แก่
- ล็อคดิฟเฟอเรนเชียลด้านหน้า
- ล็อคดิฟเฟอเรนเชียลด้านหลัง
- ล็อคดิฟเฟอเรนเชียลกลาง
ช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนน และรองรับการขับขี่บนเส้นทางที่ยากลำบาก
7. สมรรถนะสูงและอัตราเร่งที่ดีเยี่ยม
- ให้กำลังสูงสุด 505 แรงม้า
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.8 วินาที
- ระยะทางขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วน สูงสุด 100 กม.
ข้อดีของแพลตฟอร์ม DMO เทียบกับแพลตฟอร์มทั่วไป
| คุณสมบัติ | แพลตฟอร์ม DMO | แพลตฟอร์มทั่วไป |
|---|---|---|
| เทคโนโลยีไฮบริด | ✅ รองรับ EV + ICE | ❌ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องยนต์สันดาป |
| ระบบ Terrain Mode | ✅ มีโหมดทราย โคลน หิมะ | ❌ ไม่มี หรือรองรับบางโหมด |
| ระบบล็อคเฟืองท้าย | ✅ ล็อค 3 จุด | ❌ ส่วนใหญ่ไม่มี หรือมีแค่ 1 จุด |
| ความแข็งแกร่งของโครงสร้าง | ✅ 96% High Strength Steel | ❌ โครงสร้างปกติ |
| การปกป้องแบตเตอรี่ | ✅ CTC เทคโนโลยีป้องกันแบตเตอรี่ | ❌ ไม่มีการป้องกันพิเศษ |
รถยนต์รุ่นที่ใช้แพลตฟอร์ม DMO
ปัจจุบัน BYD ได้เปิดตัวรถยนต์ที่ใช้แพลตฟอร์ม DMO หลายรุ่น เช่น
- BYD Formula Bao 5 – SUV ออฟโรดสุดแกร่ง
- Leopard 5 – รถออฟโรดสายลุย รองรับการขับขี่ทุกสภาพถนน
- BYD Shark 6 – รถกระบะปลั๊กอินไฮบริด ที่ออกแบบมาเพื่อการบรรทุกและลุยทางวิบาก
สรุป
DMO หรือ Dual Mode Off-Road เป็นแพลตฟอร์มไฮบริดที่พัฒนาโดย BYD เพื่อตอบสนองความต้องการของรถออฟโรดยุคใหม่ ด้วยระบบขับเคลื่อนที่รวมพลังงานไฟฟ้าและเครื่องยนต์สันดาป การออกแบบที่แข็งแกร่ง โหมดการขับขี่ Terrain Mode และระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ DMO ได้เปลี่ยนมาตรฐานของรถยนต์ออฟโรด และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการพลัง สมรรถนะ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่สามารถรองรับทุกสภาพถนนได้อย่างมั่นใจ รถยนต์ที่ใช้แพลตฟอร์ม DMO จาก BYD อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา
ติดต่อเรา
- ที่อยู่ : 607 ถ.เพชรเกษม ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา (สาขาหาดใหญ่)
- Facebook : BYD BD Auto Group ตัวแทนจำหน่ายบีวายดีรายใหญ่สุดในภาคใต้
- LINE : @bydbdsongkhla
- สาขาของ BYD BD Auto Group
- เบอร์โทรติดต่อ : 074 805 656 (สาขาหาดใหญ่)
- เว็บไซต์ : www.bydbdautogroup.com
บทความที่น่าสนใจ
