Wall Charger อุปกรณ์สำคัญสำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน

ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวัน การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าก็กลายเป็นเรื่องที่ผู้ใช้ต้องให้ความสำคัญ Wall Charger หรือเครื่องชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าแบบติดผนัง เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมและจำเป็นสำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ Wall Charger รวมถึงการใช้งาน การทำงาน และความสามารถในการใช้งานร่วมกันระหว่างแบรนด์ต่างๆ

Wall Charger คืออะไร?

Wall Charger หรือโฮมชาร์จเจอร์ (Home Charger) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน มักจะแถมพร้อมกับรถยนต์ไฟฟ้าตอนซื้อ โดย Wall Charger ทำหน้าที่ควบคุมการจ่ายไฟฟ้าและสื่อสารกับตัวรถยนต์เพื่อให้การชาร์จเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

การทำงานของ Wall Charger

Wall Charger ไม่ได้ทำหน้าที่แปลงไฟ แต่ทำหน้าที่ควบคุมการจ่ายไฟฟ้าและสื่อสารกับตัวรถยนต์ไฟฟ้า หากมีปัญหาหรือตัวใดตัวหนึ่งไม่พร้อม ตัวเครื่องก็จะไม่จ่ายไฟ ตัวแปลงไฟจากกระแสสลับ (AC) เป็นกระแสตรง (DC) เพื่อชาร์จไปยังแบตเตอรี่ของรถ ถูกติดตั้งอยู่ในรถยนต์แล้ว เรียกว่า OBC (On Board Charger) ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่ารถคันนั้นจะชาร์จไฟเข้าได้เท่าไหร่ เช่น หากเครื่องชาร์จจ่ายไฟได้สูงสุดที่ 22kW แต่ OBC ในตัวรถรับได้ 7kW ตัวรถก็สามารถชาร์จได้เพียง 7kW

ประเภทของหัวชาร์จในประเทศไทย

รถยนต์ไฟฟ้าที่จำหน่ายในประเทศไทยกว่า 95% เลือกใช้หัวชาร์จแบบ Type II โดยมีบางรุ่นที่นำเข้ามาใช้หัวชาร์จแบบ Type I หรือ GB/T หัวชาร์จเหล่านี้อ้างอิงตามมาตรฐาน IEC 62196 และได้รับการประกาศใช้เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรม มอก. 2749 เล่ม 2-2559 นอกจากนี้ยังมีมาตรฐาน IEC 61851 ซึ่งครอบคลุมทั้งระบบอัดประจุไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) และไฟฟ้ากระแสตรง (DC)

การใช้งานร่วมกันของ Wall Charger

ผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าหลายท่านมีข้อสงสัยว่า หากที่บ้านมี Wall Charger ที่แถมจากแบรนด์รถยนต์อีกค่าย จะสามารถใช้งานด้วยกันได้หรือไม่? คำตอบคือโดยทั่วไปแล้ว หากใช้หัวชาร์จแบบเดียวกัน เช่น Type II รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ในประเทศไทยสามารถใช้ Wall Charger ร่วมกันได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีบางรุ่นที่ไม่สามารถใช้ด้วยกันได้ เช่น

• Wuling ใช้หัวชาร์จแบบ GB/T
• Nissan Leaf ใช้หัวชาร์จแบบ Type I

ข้อดีของการใช้ Wall Charger

1. ความสะดวกสบาย: ผู้ใช้สามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ที่บ้านโดยไม่ต้องไปหาสถานีชาร์จนอกบ้าน
2. ประหยัดเวลา: การชาร์จที่บ้านสามารถทำได้ในช่วงเวลาที่ไม่ใช้รถ เช่น ตอนกลางคืน ทำให้รถพร้อมใช้งานในตอนเช้า
3. ความปลอดภัย: Wall Charger มีระบบควบคุมการจ่ายไฟฟ้าและตรวจสอบความปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงจากการชาร์จผิดพลาด

การติดตั้ง Wall Charger

การติดตั้ง Wall Charger ควรทำโดยช่างผู้ชำนาญที่ได้รับการรับรอง เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการใช้งาน โดยปกติ Wall Charger จะติดตั้งที่ผนังโรงรถหรือบริเวณที่จอดรถภายในบ้าน และควรตรวจสอบระบบไฟฟ้าในบ้านว่ามีความพร้อมในการรองรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่

รายละเอียดของหัวชาร์จแบบ Type-II
ขอขอบคุณ : https://www.nectec.or.th/news/news-public-document/evcharger-standard.html

รายละเอียดขั้วต่อภายในหัวชาร์จ
ขอขอบคุณ : https://www.nectec.or.th/news/news-public-document/evcharger-standard.html

สรุป

Wall Charger เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญและจำเป็นสำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องการความสะดวกสบายในการชาร์จที่บ้าน การเลือกใช้ Wall Charger ที่เหมาะสมและการติดตั้งอย่างถูกต้องจะช่วยให้การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยทั่วไป Wall Charger ที่ใช้หัวชาร์จแบบ Type II สามารถใช้งานร่วมกันได้กับรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ในประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ผลิตรถยนต์เพื่อให้มั่นใจในความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ชาร์จและรถยนต์ไฟฟ้าของคุณ

คำถามที่พบบ่อย

แหล่งอ้างอิง

• https://www.nectec.or.th/news/news-public-document/evcharger-standard.html

ติดต่อเรา

• ที่อยู่ : 607 ถ.เพชรเกษม ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา (สาขาหาดใหญ่)
• Facebook : BYD BD Auto Group ตัวแทนจำหน่ายบีวายดีรายใหญ่สุดในภาคใต้
• LINE : @bydbdsongkhla
• สาขาของ BYD BD Auto Group
  • สาขาสงขลา (หาดใหญ่)
  • สาขาตรัง
  • สาขานราธิวาส
  • สาขาทุ่งสง
  • สาขาภูเก็ต
  • สาขาภูเก็ตบายพาส
  • สาขานครศรีธรรมราช
  • สาขากระบี่
• เบอร์โทรติดต่อ : 074 805 656 (สาขาหาดใหญ่)
• เว็บไซต์ : www.bydbdautogroup.com